BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน)
เรามีความเชี่ยวชาญในการยื่นขอสิทธิประโยชน์จาก BOI เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐในด้านต่างๆ เช่น ภาษีและการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นหน่วยงานราชการภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกำหนดเป้าหมายหลัก 3 ประการในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ดังนี้
- Innovative: เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์
- Competitive: เศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับตัวได้เร็ว และสร้างการเติบโตสูง
- Inclusive: เศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการสร้างโอกาสและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

หลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ
- การให้การส่งเสริมจะพิจารณาเป็นรายโครงการ โดยต้องเป็นโครงการที่มีการลงทุนใหม่ในเครื่องจักรทั้งหมดในสายการผลิต โครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วไม่สามารถขอรับการส่งเสริมได้
- โครงการต้องอยู่ในประเภทกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมในขณะยื่นขอ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในแต่ละประเภทกิจการ
- โครงการต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน)
- โครงการต้องใช้กรรมวิธีการผลิตหรือขั้นตอนการให้บริการที่ทันสมัย
- โครงการต้องมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่า 20% ของรายได้ (ยกเว้นกิจการเกษตรและอาหาร, อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน, และการตัดโลหะ ซึ่งต้องมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่า 10%)
- โครงการต้องมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3 ต่อ 1 สำหรับโครงการริเริ่ม และสำหรับโครงการขยายจะพิจารณาความเหมาะสมเป็นกรณีไป
- โครงการต้องมีมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ สำหรับโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการจะพิจารณาในเรื่องสถานที่และวิธีจัดการมลพิษ
สิทธิและประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
- ยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร (มาตรา 28/29)
- ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น (มาตรา 30)
- ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา (มาตรา 30/1)
- ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผล (มาตรา 31ม 31/1 และ 34)
- ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 (มาตรา 35 (1))
- ให้หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเป็น 2 เท่า (มาตรา 35 (2))
- ให้หักค่าติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินลงทุน (มาตรา 35(3))
- ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก (มาตรา 36)
สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร
- อนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาเพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุน (มาตรา 24)
- อนุญาตให้นำช่างฝีมือและผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (มาตรา 25 และ 26)
- อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน (มาตรา 27)
- อนุญาตให้ส่งออกซึ่งเงินตราต่างประเทศ (มาตรา 37)
หลักเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติ
- โครงการลงทุนในกิจการที่ระบุในบัญชีหนึ่ง ของประกาศพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% ของทุนจดทะเบียน
- โครงการลงทุนในกิจการที่ระบุในบัญชีสองและบัญชีสาม ของประกาศพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นข้างมากหรือทั้งหมดได้ ยกเว้นบางกรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดไว้
- กรณีพิเศษ: คณะกรรมการสามารถกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบางกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามความเหมาะสม
- การนำเข้าผู้ชำนาญการต่างชาติก่อนได้รับการส่งเสริม (มาตรา 24)
- ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 กำหนดให้อาจอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาศึกษาลู่ทางการลงทุนหรือทำงานในกิจการที่อยู่ระหว่างพิจารณาการส่งเสริมได้ โดยผู้ชำนาญการต่างชาติจะต้องถือวีซ่าประเภท Non-Immigrant B หรือ IB เท่านั้น
หากสนใจขอรับการส่งเสริมจาก BOI